เครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นตัวช่วยให้ความเป็นอยู่ของคนในบ้าน ชุมชนและสังคมมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปต่างๆที่ต้องการ เช่น พลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงานกลและพลังงานเคมี โดยเรามักจะคุ้นเคยกับเตารีดไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า พัดลม หลอดไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด สามารถแบ่งประเภทตามความสามารถในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าได้ 4 ประเภท คือ
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้แสง : เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานแสง ได้แก่ หลอดไฟ ซึ่งหลอดไฟในปัจจุบัน แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ หลอดธรรมดาหรือหลอดแบบมีไส้ (Incandescent Lamp) และหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
- เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความร้อน : เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงงานความร้อน เช่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า หัวแร้งบัดกรี เครื่องเป่าผม เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น มักจะประกอบด้วยขดลวดความร้อน (ปกติทำจากโลหะผสมระหว่างนิกเกิลและโครเมียม) โดยเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นในขดลวดนั่นเอง
- เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานกล : มีส่วนประกอบของมอเตอร์ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล โดยให้กระแสผ่านขดลวด ทำให้ขดลวดสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น ส่งผลกับแม่เหล็กที่มีอยู่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของแม่เหล็กขึ้น ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหมุนหรือเคลื่อนที่ตามที่เรากำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น พัดลม เครื่องปั่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเล่น VCD ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เป็นต้น
- เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานเสียง : เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงงานเสียง เช่น เครื่องรับวิทยุ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง กระดิ่งไฟฟ้า โทรศัพท์ เป็นต้น
- ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง อย่าให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
- หมั่นตรวจดูสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี
- ถ้าไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้า อย่าแก้ไขหรือซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าเองเป็นอันขาด
- หากพบว่าค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ควรตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าว่ามีไฟรั่วหรือไม่ ซึ่งควรให้ผู้ที่มีความรู้ด้านไฟฟ้ามาตรวจสอบ